![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEimQVtIXAKt2sAglG6722OSbj9ZriXHU9wJfxJd5zt5Ll6n-36QG761Y8VKq_X4ocCs8tW0rG9hgR3b5BOxSnxJOvvvT0hxSE3maqYKHDuMg7Gwzm6498tJSlzSgL_e9QwJyh6yy_l4wjvoFse8cebxAonL_JTHjKlEpCPCN9Jo8PD23P1wEupYzWqpCQ/s16000/pul2.jpeg)
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhfCSUiFbuEo6vNkXTXxZIr9I4nwrOWKOE1mQFAHIhf3LAJCvlb5svMuJME7orBGRw8JMRLgqymcalEf1pvvRB7eBA292qVKDGtYiBHxAUNTgJuQB8-4Y3E-sRSD_1jntlD3Jcx74RNbiKOIuv9jWJA3JAWx7VggkwIkrsKZQ_MjsHzjL_t53u7xCbL6g/s16000/pul3.jpeg)
“ปัจจุบันการเดินทางสู่พัทยานั้นง่ายยิ่งขึ้นด้วยการเดินทางเพียง 90 นาที เป็นเมืองแห่งการรองรับความต้องการหลากหลายเป็นทั้งแหล่งงานในโซนอีอีซี (Eastern Economic Corridor: ECC) และสถานที่พักผ่อนระดับโลก ด้วยศักยภาพทำเลที่โดดเด่นนี้ “ฮาบิแทท กรุ๊ป” จึงเลือกปักหมุดพัฒนาโครงการของบริษัทที่เน้นไลฟ์สไตล์ อินเวสเมนต์ (Lifestyle Investment) คือ การซื้อเพื่อการลงทุนปล่อยเช่า รวมถึงเป็นตลาดฮอลิเดย์ โฮม (Holiday Home) ไว้สำหรับเป็นบ้านหลังที่สองของครอบครัวและรองรับชีวิตหลังเกษียณ ซึ่งผู้ซื้อจะได้รับประโยชน์ในเรื่องอัตราผลตอบแทนการลงทุน (Yield)” นายชนินทร์กล่าว
จากแนวโน้มการขยายตัวของกำลังซื้อชาวต่างชาติในจังหวัดท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นสูง โดยเฉพาะจากชาวรัสเซียและจีน โดยในส่วนของชาวรัสเซียมีแนวโน้มการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นในอนาคตอันใกล้ทั้งในดูไบ ตุรกี ภูเก็ต และพัทยาโดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ฮาบิแทท กรุ๊ป รุกทำการตลาดไปในกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่องรวมถึงการร่วมมือกับเอเยนต์ไทยและต่างชาติ โดยนำเสนอทั้งโครงการฮอลิเดย์โฮม อย่างโครงการ ไฮแลนด์ พาร์ค พูล วิลล่า พัทยา (Highland Park Pool Villas Pattaya) ปัจจุบันมียอดขายจากลูกค้าคนไทยในสัดส่วน 70% และลูกค้าต่างชาติ 30%
ในส่วนของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน หรือ ไลฟ์สไตล์ อินเวสเมนต์ ได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ เนื่องจากผลตอบแทนจากค่าเช่าสำหรับโครงการไลฟ์สไตล์ อินเวสเมนต์ จะอยู่ในเกณฑ์สูงกว่าคอนโดมิเนียมทั่วไป อีกทั้งเรามีบริษัทในเครือคือ Habitat Hospitality ทำงานร่วมกับแบรนด์ชั้นนำ (Branded Residence) มีระบบบริหารจัดการห้องพัก ห้องสัมมนา ห้องอาหาร โดยมืออาชีพและแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ ทั้งยังเป็นการลงทุนที่มีความแน่นอน และความเสี่ยงจากภาวะราคาที่ผันผวนจากการลงทุนที่ต่ำกว่า เมื่อเทียบกับการลงทุนประเภทอื่นๆ ทำให้สามารถสร้างผลตอบแทนในระยะยาวได้อย่างน่าพอใจเมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารในปัจจุบัน“พูลวิลล่าในพัทยาราคา 10-20 ล้านบาท เป็นระดับราคาที่มีอัตราการขายดี คนต่างชาติซื้อเป็นบ้านหลังที่สองหรือบ้านหลังวัยเกษียณ ด้านอสังหาฯ เพื่อการลงทุนยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องและได้ผลตอบแทนค่อนข้างดี ในขณะที่ดีมานด์ของคอนโดที่พัทยาเริ่มสูงขึ้นเนื่องจากนักท่องเที่ยวเริ่มเข้ามามากขึ้น ส่วนคอนโดในพัทยาปัจจุบันราคาสูงสุดอยู่ที่ ตร.ม.ละ 2 แสนบาท คาดว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้าราคาจะกระโดดขึ้นไปอีก 30-40% หรือประมาณ 2.5-3 แสนบาท ดังนั้นจึงเป็นโอกาสของผู้ซื้อทั้งคนไทยและชาวต่างชาติสำหรับการซื้ออสังหาริมทรัพย์ทั้งเพื่ออยู่เองเป็นบ้านหลังที่สอง และการลงทุนสร้างผลตอบแทนในระยะยาว” นายชนินทร์ กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผลงานที่ผ่านมา “ฮาบิแทท กรุ๊ป” ได้ลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนในพัทยาไปแล้ว 8 โครงการ รวมมูลค่าการลงทุน 6,000 ล้านบาท โดยเป็นโครงการที่เปิดให้บริการในรูปแบบของโรงแรมและพูลวิลล่าแล้วจำนวน 4 แห่งคือ เดอะ วิลล์ จอมเทียน (The Ville Jomtien), ครอสทู ไวบ์ พัทยา ซีเฟียร์ (X2 Vibe Pattaya Seaphere), ครอสทู พัทยา โอเชียนเฟียร์ (X2 Pattaya Oceanphere), เบย์เฟียร์ โฮเทล พัทยา (Bayphere Hotel Pattaya) ทั้งนี้ในปี 2566 เตรียมเปิดบริการเพิ่มอีก 4 แห่ง คือ เบย์เฟียร์ พรีเมียร์ สวีท (Bayphere Premier Suites) จะเปิดบริการไตรมาส 3 ส่วนวินด์ดัม แอทลาส วงศ์อมาตย์ พัทยา (Wyndham Atlas Wongamat Pattaya), บลูเฟียร์ พัทยา (Bluphere Pattaya) พร้อมเปิดให้บริการไตรมาส 4 และรามาด้า มิรา นอร์ท พัทยา (Ramada Mira North Pattaya) เตรียมให้บริการในปี 2567
No comments:
Post a Comment