“มปอ.” รวมพลังผู้ประกอบการ ลงพื้นที่กรุงเทพฯ รณรงค์ “ฉลองปลอดภัย ดื่มไม่ขับ” - Fintech Marts

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

Monday, December 29, 2025

“มปอ.” รวมพลังผู้ประกอบการ ลงพื้นที่กรุงเทพฯ รณรงค์ “ฉลองปลอดภัย ดื่มไม่ขับ”


“มปอ.” รวมพลังผู้ประกอบการ ลงพื้นที่กรุงเทพฯ รณรงค์ “ฉลองปลอดภัย ดื่มไม่ขับ” ย้ำเข้มงวดไม่ขายแอลกอฮอล์ให้ผู้เยาว์อย่างเคร่งครัด

มูลนิธิแก้ไขปัญหาการดื่มแอลกอฮอล์ (มปอ.) ร่วมกับสมาคมร้านอาหาร และชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร จัดแคมเปญ “ฉลองปลอดภัย ดื่มไม่ขับ” ลงพื้นที่กรุงเทพมหานคร รณรงค์ให้สถานประกอบการเข้มงวดไม่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี และผู้ที่มีอาการมึนเมาอย่างชัดเจน พร้อมสร้างจิตสำนึกให้ผู้ขับขี่และประชาชนทั่วไปตระหนักถึงการดื่มไม่ขับ และสนับสนุนให้ผู้ดื่มใช้บริการรถสาธารณะในการเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย โดยมี นางสาวชัชฎา จันทรางศุ ประธานมูลนิธิแก้ไขปัญหาการดื่มแอลกอฮอล์ นายสรเทพ โรจน์พจนารัช ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร และนายฌานนท์ เกิดเจริญ นายกสมาคมร้านอาหาร ร่วมเปิดตัวแคมเปญ ณ ร้านขนาบน้ำ กรุงเทพมหานคร


นางสาวชัชฎา จันทรางศุ ประธานมูลนิธิแก้ไขปัญหาการดื่มแอลกอฮอล์ เปิดเผยว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา ประเทศไทยยังคงเผชิญกับอุบัติเหตุบนท้องถนนในระดับสูง โดยตลอดช่วงเฝ้าระวัง “10 วันอันตราย” ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2567 ถึง 5 มกราคม 2568 เกิดอุบัติเหตุรวม 2,467 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 436 คน และผู้บาดเจ็บกว่า 2,300 คน สาเหตุหลักยังคงมาจากการขับรถเร็วเกินกำหนด เมาแล้วขับ และรถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะที่เกิดเหตุสูงสุด สะท้อนถึงความท้าทายด้านความปลอดภัยทางถนนที่ยังต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง


นางสาวชัชฎากล่าวต่อว่า เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเทศกาลปีใหม่ของปีก่อนหน้า ภาพรวมอุบัติเหตุบนท้องถนนยังไม่สะท้อนการปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน แม้รูปแบบการรายงานจะแตกต่างกัน โดยในอดีตใช้กรอบ “7 วันอันตราย” ขณะที่ปีล่าสุดขยายเป็น “10 วันอันตราย” แต่เมื่อพิจารณาตัวชี้วัดสำคัญ พบว่า จำนวนผู้เสียชีวิตเฉลี่ยต่อวันยังไม่ลดลง ขณะที่ รถจักรยานยนต์ยังคงเป็นยานพาหนะที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด สะท้อนว่ามาตรการด้านความปลอดภัยทางถนนยังไม่สามารถลดความสูญเสียได้อย่างมีนัยสำคัญ และตั้งคำถามสำคัญว่า ทุกเทศกาลที่ผ่านไป ประเทศไทยจำเป็นต้องยอมรับการสูญเสียในลักษณะนี้ต่อไปหรือไม่

“การแก้ปัญหาเมาแล้วขับต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน การบังคับใช้กฎหมายต้องเดินควบคู่ไปกับการสร้างวัฒนธรรมการดื่มอย่างมีความรับผิดชอบ ขณะเดียวกัน นโยบายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องสร้างสมดุลระหว่างมิติทางเศรษฐกิจและสาธารณสุข มูลนิธิฯ จึงทำงานร่วมกับทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมมาอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างสังคมบนแนวคิดเช่นนั้น โดยแคมเปญ ‘ฉลองปลอดภัย ดื่มไม่ขับ’ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ครั้งนี้คือหนึ่งในรูปธรรมของงานที่ทำร่วมกัน” นางสาวชัชฎากล่าว

ด้าน นายสรเทพ โรจน์พจนารัช ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร กล่าวว่า โครงการรณรงค์ “ฉลองปลอดภัย ดื่มไม่ขับ” จะดำเนินกิจกรรมตลอดระยะเวลา 7 วัน ในช่วงคุมเข้ม ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2568 ถึง 2 มกราคม 2569 โดยรณรงค์ให้ผู้ประกอบการร้านอาหารทั่วกรุงเทพมหานครปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี และผู้ที่มีอาการมึนเมา พร้อมเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับผลกระทบของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อร่างกายสู่ประชาชนผ่านสื่อในรูปแบบต่าง ๆ

“‘ร้านนี้ห่วงใย ดื่มไม่ขับ ดื่มอย่างรับผิดชอบ ไม่ขายให้บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปี’ คือสารที่ผู้ประกอบการต้องการสื่อไปถึงประชาชนทุกคน เราอยากให้การเฉลิมฉลองปีใหม่เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขและความปลอดภัย หากคุณอายุต่ำกว่า 20 ปี เราไม่ขาย หากคุณมีอาการมึนเมา เราไม่ขาย และหากคุณดื่ม เราสนับสนุนให้คุณใช้บริการรถสาธารณะเพื่อกลับบ้านอย่างปลอดภัย” นายสรเทพกล่าว

นายสรเทพกล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลใด แนวคิด “ดื่มไม่ขับ ดื่มอย่างรับผิดชอบ” นั้นยังคงสอดคล้องกับนโยบายรัฐด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักของประเทศ และถนนที่ปลอดภัยถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

ขณะที่ นายฌานนท์ เกิดเจริญ นายกสมาคมร้านอาหาร กล่าวว่า ภาคผู้ประกอบการขอขอบคุณรัฐบาลที่ขยายเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเปิดให้ทดลองขายในช่วงเวลา 14.00–17.00 น. เป็นระยะเวลา 180 วัน รวมถึงขยายเวลาการดื่มต่อได้อีก 1 ชั่วโมงหลังเวลาห้ามขาย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดยจะมีการประเมินผลก่อนพิจารณาบังคับใช้อย่างถาวร ทั้งนี้ ผู้ประกอบการพร้อมปฏิบัติตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะมาตรา 29 ที่เกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบของผู้ประกอบการ

“ร้านอาหารมีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัยภายในสถานประกอบการ รวมถึงไม่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี และผู้ที่มีอาการมึนเมาอย่างชัดเจน ขณะเดียวกัน เราก็อยากให้ภาครัฐบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม ไม่ผลักภาระให้ผู้ประกอบการเพียงฝ่ายเดียว พร้อมสร้างการรับรู้และความร่วมมือในสังคม เช่น การรณรงค์ดื่มไม่ขับ การให้ข้อมูลที่เข้าใจง่าย และการจัดระบบเรียกรถกลับบ้านในราคาที่เหมาะสม” นายฌานนท์กล่าว

นายฌานนท์กล่าวทิ้งท้ายว่า ภาคผู้ประกอบการเห็นด้วยกับการส่งเสริมความปลอดภัยของสังคม และไม่สนับสนุนการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับขี่ยานพาหนะ โดยในอนาคต สมาคมร้านอาหาร ชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร และมูลนิธิแก้ไขปัญหาการดื่มแอลกอฮอล์ จะทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง เพื่ออบรมผู้ประกอบการทั่วประเทศและสื่อสารกับสังคม เพื่อสร้างความปลอดภัยและความยั่งยืนในระยะยาว.

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad